Precision Health Co., Ltd.

การกินทุเรียนให้ได้ประโยชน์

ถ้าคิดถึงผลไม้ที่กำลังฮิต นิยมบริโภคกันมากในช่วงนี้ ก็คงหนีไม่พ้นทุเรียน

ทุเรียนได้ชื่อว่าเป็น ราชาของผลไม้ หากรับประทานในปริมาณที่พอดี จะก่อให้เกิดประโยชน์ แต่หากบริโภคมากเกินไปก็ก่อให้เกิดโทษได้เช่นกัน

ทุเรียนประกอบไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด
- กำมะถัน ซึ่งช่วยบำรุงให้ผมและเล็บแข็งแรง เงางามดูสุขภาพดี ช่วยบำรุงให้ผิวพรรณเนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน
- โฟเลต ช่วยการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายใช้น้ำตาล และกรดอะมิโนผ่านทางขบวนการระดับเซลล์ป้องกันเบาหวาน ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง
- เบต้าแคโรทีน ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด สามารถป้องกันโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งกระเพาะอาหาร ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดความเสี่ยงของภาวะจอประสาทตาเสื่อม ชะลอความเสื่อมของสมองและความจำ
- โพแทสเซียม ช่วยในการควบคุมระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ ควบคุมสมดุลอิเล็กโตรไลต์ และสมดุลกรด-เบส
- ไฟเบอร์ ช่วยทำให้อิ่มนานมากขึ้น ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่

วันนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับการกินทุเรียนให้ได้ประโยชน์ ให้เพื่อนๆได้ทราบกันค่ะ

1. รับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรเกินวันละ 1 พู หรือ 2 เม็ด หากรับประทานมากเกินไปจะส่งผลเสีย ทำให้ร้อนใน น้ำหนักขึ้นได้
2. เลือกรับประทานทุเรียนที่ไม่สุกงอมมากไป เพราะผลไม้ที่สุกจัด จะมีปริมาณน้ำตาลเยอะ
3. ควรรับประทานทุกเรียนในช่วงเช้าหรือกลางวันเท่านั้น เลี่ยงการรับประทานในช่วงกลางคืนหรือก่อนนอน เพราะทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่สูง หากรับประทานช่วงกลางคืน ร่างกายจะไม่สามารถเผาผลาญออกไปได้หมด ทำให้เกิดการสะสมไขมันไว้ในร่างกายได้
4. ควรลดปริมาณอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาล ในวันที่รับประทานทุเรียน
5. ไม่รับประทานอาหารที่มีพลังงานสูง คู่กับการรับประทานทุเรียน เช่น ทานทุเรียนคู่กับข้าวเหนียวราดน้ำกะทิ
6. ไม่รับประทานทุเรียน คู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือ น้ำอัดลม เนื่องจากทุเรียนเป็นอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน้ำอัดลม ก็ให้พลังงานสูงเช่นกัน เมื่อกินร่วมกันจะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานเกิน
7. ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ หรือ กินมังคุด จะช่วยแก้ร้อนในได้
8. ช่วงไหนที่กินทุเรียน ควรหมั่นออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญแคลอรี่ เพราะทุเรียนเป็นอาหารที่ให้แคลอรี่สูง
9. หากมีโรคประจำตัว ควรรับประทานทุเรียนให้น้อยที่สุด เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไต ควรระวังเรื่องการกินทุเรียนมากกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้กรดกำมะถันในทุเรียนจะทำให้เอนไซม์ที่กำจัดสารพิษจากกระบวนการเผาผลาญลดลง หากมีปัญหาสุขภาพหรือโรคประจำตัวอาจทำให้เกิดอาการหน้าแดง ชา วิงเวียนและอาเจียน หากนำส่งโรงพยาบาลไม่ทันอาจเสียชีวิตได้

ทราบแบบนี้แล้ว ทุกคนอย่าลืมจำกัดปริมาณการรับประทานทุเรียนกันด้วยนะคะ